วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco) หรือ Saint Mark's Basilica

โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco) หรือ Saint Mark's Basilica

เวนิส (Venezia) ประเทศอิตาลี (Italy)
               เวนิส (Venezia) เมือง ที่โรแมนติกติดอันดับต้นๆ ของโลก “เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน” มีเกาะเล็กใหญ่มากมายรายล้อม นักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือกอนโดลา (Gondola) เรือพายพื้นบ้านของชาวเวนิส เพื่อชมความงามของเมือง


สถานที่สำคัญของเวนิส


โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco) หรือ Saint Mark's Basilica




ตั้งอยู่ที่จตุรัสซานมาร์โคติดกับวังดยุคแห่งเวนิส ประเทศอิตาลี
โบสถ์นี้มีฉายาว่าโบสถ์ทอง (Church of Gold) เป็นโบสถ์ประจำเมืองที่มีความสำคัญกับเมืองเวนิสมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน โบสถ์สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 829 ตัวโบสถ์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคไบแซนไทน์จนถึงยุคเรอเนสซองส์
การ สร้างโบสถ์นี้มีที่มาว่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่นักบุญมาร์ค ผู้ซึ่งเป็นที่นับถือในเวนิส ในฐานะนักบุญผู้เผยแผ่ศาสนาที่อิยิปต์ และถูกประหารชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 828 พ่อค้าชาวเมืองเวนิสไปขโมยศพของนักบุญเซนต์มาร์ก มาจากเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ แล้วนำมาถวายเจ้าผู้ครองเมืองเวนิสในขณะนั้น ซึ่งเจ้าผู้ครองเมืองก็ได้สร้างโบสถ์นี้ไว้เก็บศพของนักบุญเซนต์มาร์กเพื่อ ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน
 
 
 
จุดเด่นของโบสถ์ คือ ด้านหน้าโบสถ์เป็นซุ้มประตูโค้ง 5 ช่อง แต่ละช่องประดับด้วยโมเสกสีทองจากกรีซ มีภาพการเชิญศพนักบุญมาร์กมาเวนิส
ม้า ทั้งสี่ตัวก็ถูกนำกลับคืนมาเวนิส ปัจจุบันม้าทั้งสี่ ตัวจริงเก็บอยู่ภายในโบสถ์ ส่วนที่เห็นด้านนอกในปัจจุบันเป็นม้าที่จำลองขึ้นแทน

 
ตรงระเบียงยาวด้านบนมีรูปหล่อบรอนซ์ม้า 4 ตัว ม้าทองบรอนซ์เหล่านี้นำมาจากประตูชัยที่กรุงคอนสแตนติโนเปิ้ลเมื่อ ค.ศ. 1204 หลังสงครามครูเสด  ม้าทั้งสี่มีชื่อว่า The Triumphal Quadriga เมื่อนโปเลียนยึดครองเวนิส ได้นำม้าทั้งสี่ไปประดับประตูชัยที่กรุงปารีส ต่อมาเมื่อนโปเลียนหมดอำนาจลง
 
ภาย ในโบสถ์เป็นที่เก็บรักษาศพของนักบุญมาร์ค จุดที่น่าสนใจอยู่ที่เพดาน กำแพง มีภาพจิตรกรรมซึ่งตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองประดับประดาด้วยหินสีมีค่า ครอบคลุมระยะกว่า 4,000 ตารางเมตร เป็นเรื่องราวการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ของนักบุญมาร์คและเรื่องราวในพระคัมภีร์
 ด้านหลังแท่นบูชาในโบสถ์คือ ปาลา โดโร (Pala d'Oro) เป็นศาสนวัตถุฝีมือช่างทองเวเนเชี่ยนสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งของเวนิสที่เก็บรักษาอยู่ในโบสถ์นี้  ปาลา โดโร เป็นแผ่นประดับแท่นบูชาที่ทำด้วยทองคำลงยา 225 แผ่น แต่ละแผ่นฝังอัญมณีมีค่าเช่น ไข่มุก มรกต ทับทิม โกเมน บุษราคัม ไพลิน และอื่น ๆ
 
นอก จากนี้ภายในโบสถ์ยังมีพิพิธภัณฑ์ อยู่ด้วยด้านบน ซึ่งจัดแสดงของมีค่าโบราณ ภาพจิตรกรรม ม้าบรอนซ์ กระเบื้องโมเสค บันทึกเรื่องราวต่างๆ สมัยยุคกลาง รวมทั้งหนังสือโบราณอายุกว่า 500 ปี
             เปิดให้เข้าชมวันจันทร์ถึงเสาร์ เวลา 9.45 - 17.00น. ส่วนวันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชมเวลา 14.00 - 17.00น.ไม่เสียค่าเข้าชมถ้าเข้าเฉพาะโบสถ์และต้องเเต่งกายสุภาพ  ขาสั้น  สายเดี่ยวห้ามเข้า แต่ถ้าเข้าพิพิธภัณฑ์ในนั้นจะเสียค่าเข้าแตกต่างกันไป 
บริเวณ หน้าโบสถ์เป็นจัตุรัสขนาดใหญ่ ศูนย์รวมของทุกอย่างที่เป็น ‘เวนิส’ เป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดัง  รอบจตุรัสเซนมาร์คเรียงรายด้วยร้านอาหาร สินค้าแบรนด์เนม ร้านขายของที่ระลึก รวมไปถึงฝูงนกพิราบ จัตุรัสนี้มีอาคารที่สำคัญสองแห่งคือ หอระฆัง และหอนาฬิกา  
 
 
 อาหาร
Pizza  หน้าแอสพารากัสกับกุ้ง
 
 
 blackish spaghetti  (สปาเก็ตตี้หมึกดำ)
 
 
                                                               ของที่ระลึก
               หน้ากากแฟนซี เวนิสนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของเทศกาลคาร์นิวัล จึงมีหน้ากากแฟนซีหลากแบบหลายสไตล์ให้เลือก          มากมาย ประดับประดาด้วยวัสดุสวยงาม

แก้ว เป่าจากโรงงานเป่าแก้วมูราโน จัดเป็นงานฝีมือที่มีชื่อเสียงของเวนิส มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่เครื่องประดับชิ้นเล็ก เครื่องแ ก้ว กรอบรูป แจกัน ฯล

ลูกไม้บูราโน มีให้เลือกตั้งแต่ผ้าปูโต๊ะ ม่านหน้าต่าง และผ้ารองจาน ฯลฯ